วันศุกร์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

แดง ไบเล่ย์

ย้อนรอยหนังเก่า "Dang Bireley's and Young Gangsters" จากข้อมูลจริง " 
  ...เด็กอายุ 40 down คงไม่รู้เรื่อง มันเป็นยุคคน 40 up ถึงจะรู้ประสากัน มันมีถนน ๆ หนึ่ง สมัยนั้นนิยมเรียกว่า "ซอย" หากไม่ใช่ถนนหลัก จะเรียกซอยหมด ซอย ๆ นี้อยู่ตรงข้ามโรงหนังเฉลิมไทย เด็กรุ่นนี้ก็ไม่รู้จักเฉลิมไทยอีก เพราะเขาทุบทิ้งให้เห็นทัศนียภาพของโลหะประสาท ได้ชัด ๆ
...ซอย ๆ นี้จะทะแยงกับป้อมมหากาฬ หน้าวัดสระเกษ หรือวัดภูเขาทอง ซอย ๆ นี้ จะอยู่ข้าง ๆ ศูนย์สังคีตของธนาคารกรุงเทพ เชิงสะพานผ่านฟ้า ปัจจุบัน ใครเคยนั่งรถผ่านถนนราชดำเนิน จากยมราช สะพานขาวมา พอผ่านตึกการบินไทยเก่า ตรงมุมเป็นตึกการโยธาธิการก็จะข้ามสะพานผ่านฟ้า ลงสะพานแล้วมองไปซ้ายมือจะเห็นโลหะประสาท แต่ให้มองทางขวามือ จะเห็นถนน ๆ หนึ่ง นั่นคือ ซอยที่จะเอ่ยถึง และเป็นแหล่งตำนานของ "แดง ไบเล่ย์"
ลูกพี่ของ "เคี้ยง ยูเนี่ยน"
...แดง ไบเล่ย์ หากยังมีชีวิตหลงเหลืออยู่ถึงวันนี้ ก็ปาไปตั้ง 65 เห็นจะได้ ส่วน "เคี้ยง ยูเนี่ยน" เป็นคนเกิดยุค พ.ศ. 2497 ไล่นิ้วมือกันแล้ว ห่างกันไม่หนี 16 ปีบริบูรณ์ แล้วมาเป็นลูกพี่และลูกน้องกันได้อย่างไร
...แดง ไบเล่ย์ เริ่มมีชื่อเสียงกระฉ่อนในยุทธจักรวงการนักเลงเมื่ออายุ 20 กว่า ๆ ดังนั้น เคี้ยง ยูเนี่ยนจึงมองเห็นหลังลาง ๆ ของ แดง ไบเล่ย์ ตั้งแต่อายุตัวเองได้ 6 - 7 ขวบ ที่จำจดวีรกรรม วีรเวรได้ถนัดถนี่เต็มสองตาสองหู

...ที่มาของฉายา "ไบเล่ย์" และ"ยูเนี่ยน"
ซอยที่ว่านี้ จะเป็นที่ตั้งโรงงานน้ำอัดลมยี่ห้อ ไบเล่ย์ และกลาง ๆ ซอยจะไปทะลุกับซอยวัดปรินายก ซอยวัดปรินายกนี่แหละ เป็นดงของอันธพาลยุคนั้น ทั้งเป็นจุดกำเนิดและแหล่งมั่วสุม
แดง ก็เกิดและโตในซอยวัดปรินายก จึงได้ชื่อว่า "แดง ไบเล่ย์" ต่อมามีการขยายกิจการน้ำอัดลม ออกเป็นน้ำเขียว-น้ำแดง และใช้ยี่ห้อว่า "ยูเนี่ยน" นัยว่า บริษัทนี้ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นหุ้นส่วนใหญ่ และเป็นการประชาสัมพันธ์ทางอ้อมให้น้ำอัดลม"ยูเนี่ยน" ติดปากคนไทย จึงมีความพยายามจะเรียกซอยนี้ใหม่ว่า "ซอยยูเนี่ยน" และ"เคี้ยง" ก็เติบโตมาจากย่านและซอยนี้ตั้งแต่เด็ก เมื่อไปต่อมัธยมปลายไกลถึง"มักกะสัน" ก็คงยังเป็นช่วงที่ตำนานของ"แดง ไบเล่ย์" ยังประทับใจจิ๊กโก๋อยู่ เคี้ยง จึงสร้างภูมิคุ้มกันตัวเอง เพื่อมิให้เพื่อนฝูงรังแก ด้วยตอนเรียนม.ปลาย เคี้ยงตัวเล็กขนาดอยู่ท้ายแถวทุกครั้ง จดจำได้ เวลาเรียนพลศึกษา ครูสั่งให้"เข้าแถวตามลำดับใหญ่" เคี้ยงอยากใหญ่ ไม่ยอมอยู่ท้ายแถว ถูกเพื่อนร่วมแถวไล่ไปท้ายแถว และตบตูดเตะก้นเป็นประจำ เคี้ยง จึงประกาศฉายาของตนว่า "เคี้ยง ยูเนี่ยน" ผู้คนรู้กันว่าของแท้ไม่ใช่ของเทียม เพราะเคี้ยงนั่งรถเมล์ไปกลับ มักกะสัน-ราชดำเนิน ทุกวัน คนอื่น ๆ จะแอบถามว่า เป็นอะไรกับ แดง ไบเล่ย์ สำหรับเพื่อนสนิท เคี้ยงจะบอกว่า "ตอนกูตัวเล็ก ๆ เขาใช้กูวิ่งไปซื้อบุหรี่เป็นประจำ พอจะอ้างเป็นลูกพี่ได้ไหม"
...ครั้นจะถามและให้เล่าตำนาน "แดง ไบเล่ย์" "เคี้ยง ยูเนี่ยน" ก็ปฏิเสธว่า ตอนนั้นตัวกูยังเล็กมาก จำได้แค่ลาง ๆ หากอยากรู้ต้องวานให้ "ซือแป๋" กูเล่าแทนเสียแล้ว เพราะซือแป๋ของกู ห่างกับ แดง ไบเล่ย์ ประมาณ 10 ปี ข่าวว่า ก็เคยเดินตามตูดตามก้นพวกเหล่านี้ด้วยเหมือนกันอยากฟัง....เห็นจะต้องโอดอ้อนซือแป๋ก่อนเสียแล้ว
...นักเลงยุคนั้นก็ "พัน หลังวัง" ก็รวมอยู่ในตำนานยุคเดียวกัน จุดจบนักเลงรุ่นนี้ มาจากจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ท่านออกกฏหมายเป็นประกาศคณะปฏิวัติ ตั้งข้อหานักเลงรุ่นนี้ว่า "อันธพาล"
แดง ไบเล่ย์ หนีหัวซุกหัวซุน และไปถูกจับที่เขาเต่า หัวหินในปีพ.ศ. 2504 ก่อนจอมพลสฤษดิ์ ถึงแก่อสัญญกรรมหนึ่งปี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น